ลุงเป็นสายบู๊มาตั้งแต่ 9 ขวบ แล้วนะ เพราะลุงเคยเรียนชกมวยที่ All Saints Youth Club แถมยังเป็นแชมป์ประจำเมืองอีกด้วย
แต่เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ไอ้หนุ่มเลียมเลิกชกมวยคือการโดนคู่ต่อสู้ถลุงนับ 10 นาที จนเละคาเวที นั่นทำให้คุณพ่อยื่นคำขาดห้ามชกมวยอาชีพอีก ดังนั้นการก้าวมารับบทบู๊ที่ต้องใช้หมัดมวยในวัยสีผมดอกเลา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรของลุง เคยเป็นนักเตะฝึกหัดของ Shamrock Rovers F.C. แต่ไม่ได้รับการเซ็นต์สัญญา ชีวิตจึงหักเหสู่การแสดง
จากการร่วมแสดงกับ คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ในหนัง The Dead Pool ปี 1988 ทำให้ลุงเลียมเรียนรู้ว่าความแก่ไม่ใช่อุปสรรคในการเป็นแอ็คชั่นสตาร์ ทว่าฝีมือการแสดงอันเยี่ยมยอดก็ทำให้ลุงเลียม เดินสายในทางเป็นนักแสดงขายฝีมือดราม่า และรับเล่นหนังแอ็คชั่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเอกที่ต้องได้ตีต่อยอะไรมากนัก หลังจากเดินสายนักแสดงทางดราม่าจนได้ชิงออสก้าร์จากหนัง หนังใหม่เต็มเรื่อง Schindler's List ลุงเลียมเริ่มสนใจเดินสายทางแอ็คชั่นจริงจัง โดยการเข้าไปมีชื่อชิงชัยบท เจมส์ บอนด์ 007 ภาค GoldenEye แต่ก็ต้องเสียบทนี้ให้แก่ เพียซ บรอสแนน ไปในที่สุด จนกระทั่งลุงได้รับบท อาจารย์ ไคว-กอนจิน ใน Star Wars: Episode I - The Phantom Menace นั่นทำให้ลุงเริ่มสร้างชื่อในทางบู๊ ลุงเข้ารับการฝึกการใช้อาวุธดาบอย่างจริงจังจนชำนาญ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ต่างๆ นั่นคือสาเหตุที่เขาได้บทในหนังดาบพีเรียด Kingdom of Heaven และบทอาจารย์ของ บรูซ เวย์น ในหนัง Batman Begins
ในปี 2007 มีหนังแอ็คชั่นฟอร์มเล็กของผู้กำกับ ลุค เบซง เรื่องหนึ่งซึ่งจะนำแสดงโดย เจฟฟ์ บริดเจ็ส
ทว่าเจฟฟ์ได้ถอนตัวไปเพราะมีฉากแอ็คชั่นมากมายที่เขาไม่สามารถเล่นมันได้ เป็นช่วงเวลาที่ เลียม นีสัน มีความซ้ำจากการที่ลุงมักรับบทซ้ำซาก เป็นอาจารย์พระเอก หรืออัศวินครูฝึก ลุงจึงแทบหาบทนอกเหนือจากนี้ลงไม่ได้เลย ลุงเลียมรับเล่นหนังฟอร์มเล็กเรื่องนั้นเพียงเพราะอยากมีงานหนังบู๊ลงแผ่นแบบที่ดาราหลายๆคนชอบทำกัน
อย่างเช่น คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์ หรือ คริสเตียน สเลเตอร์ อาจจะไม่โด่งดังอะไร แต่การรับค่าตัวต่อเรื่องที่ 1-2 ล้านเหรียญ ก็ทำให้พออยุ่ได้ หนังเรื่องนั้นคือ Taken ซึ่งเป็นงานที่โปรดักชั่นดีกว่าหนังแผ่นขึ้นมานิดหน่อย ด้วยทุนแค่ 25 ล้านเหรียญ และมันกำกับโดย ปิแอร์ มอร์เรล เด็กในคาถา ลุค เบซง ที่กำกับหนังเป็นเรื่องที่ 2 ต่อจากงานสร้างชื่ออย่าง Banlieue 13 หนังออนไลน์ หนัง Taken ฟันกำไรไปเน้นๆ 226 ล้านเหรียญ พร้อมกับการกลับมาเกิดในวงการใหม่ในฐานะนักบู๊วัยดึกของ เลียม นีสัน นั่นเป็นเพราะการบู๊ระห่ำเข้าถึงบทบาททั้งทางมวยและทางดราม่า หลังจากนั้นก็มีขบวนพายุหนังแอ็คชั่นหลั่งไหลเข้ามาให้ลุงเลียมพิจารณาไม่เว้นแต่ละวัน และลุงก็เริ่มเดินสายแอ็คชั่นสตาร์จริงจังแบบที่เคยอยากเป็นอย่าง คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ผลงานไม่ว่าจะเป็น The A-Team , Unknown , The Grey, Non-Stop , ฯลฯ โดยที่ยังมี Taken อีกสองสามภาคตามมาเป็นภาคต่อ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำกำไรให้ผู้สร้างทั้งสิ้น แม้จะเลิกชกมวยและเดินทางสายดารามานาน แต่ลุงยังคงสนับสนุนการชกมวยโดยการไปเยี่ยมเยือน O'Hanlon Park Boxing Club ค่ายมวยเยาวชนของเพื่อนเก่าที่เคยฝึกมวยมาด้วยกัน โดยมีการบริจาคสนับสนุนเด็กๆในค่ายเสมอๆ
เลียม นีสัน ในวัย 68 ปีเข้าไปแล้ว แต่ยังคงเดินหน้าในทางบู๊ควบคู่ไปกับรับงานสายดราม่าบ้างต่อไป ผลงานใหม่ล่าสุดของลุงคือหนังล้างแค้น Honest Thief ที่กำลังจะเข้าฉายบ้านเรา 13 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
Comments