โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 : ประกาศอิสรภาพ
คือภาคที่ดีที่สุดในทุกๆภาค เพราะมีทั้งความสนุก ขบขัน แอ็คชั่นชิงไหวชิงพริบในเชิงรบ รวมถึงเรื่องราวความรักระหว่างรบระหว่างไอ้ทิ้ง กับ เลอขิ่น ก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้ลงตัว ท่านมุ้ยเลือกที่จะให้ฉากเปิดเป็นความขบขัน โดยการให้ ออกพระศรีถมอรัตน์ กับ ออกพระชัยบุรี แย่งกันเข้าเฝ้าพระนเรศวร ที่ลานประลอง
ซึ่งในกาลครั้งนั้นพระองค์ยังไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน คนก็จะรู้จักในนาม"องค์ดำ" แต่ไม่เคยเห็นหน้าตา ออกพระศรีถมอรัตน์ ยันยีเยาเป้ายิ้งฉุบเอาชนะออกพระชัยบุรี จึงได้เข้าเฝ้าก่อน ดูหนังออนไลน์ แต่ไม่รู้ว่าองค์ดำเป็นใคร จึงเดาส่งไปว่าคนที่นั่งในลานประลอง ใครดำสุดก็ผู้นั้นแหละ ออกพระศรีถมอรัตน์ ไปนั่งถวายบังคมต่อหน้า"ออกญาราชวังสัน"
ซึ่งเป็นแขกมัวร์ผิวดำที่มาช่วยพระนเรศวรรบ ท้ายสุดออกญาราชวังสันจึงได้เฉลยว่าเขาไม่ใช่องค์ดำ แค่ผิวดำเฉยๆ ฉากนี้เองเราจะได้เห็นการแนะนำตัวของเหล่านักรบองค์ดำคนอื่นๆไปด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็นทหารฝีมือดีที่มาจากต่างบ้านต่างถิ่น เพื่อเข้าร่วมกับพระนเรศต่อกรกับพม่ารามัญ นักรบองค์ดำในหนังนั้นถูกแต่งแต้มจินตนาการเข้าไปพอสมควร
เพราะท่านมุ้ยเลือกใช้ชื่อหนังว่า "ตำนาน" ขึ้นต้น ซึ่งถือเป็นตำนาน เป็นเรื่องเล่า อาจจะไม่ได้สมจริงหรือตรงตามประวัติศาสตร์มากนัก พูดถึงแขกมัวร์ผิวดำแล้ว ซีรี่ย์ Netflix บางคนแปลกใจว่ามาอยู่ในกองทัพของพระนเรศได้ยังไง ในประวัติศาสตร์นั้น ออกญาราชวังสัน มีตัวตนจริง บ้างก็ว่าไม่ใช่แขกมัวร์ แต่เป็นแขกจาม แห่งอาณาจักรจามปาในเวียดนาม ภายหลังได้อพยพมาอโยธยา
และมีมาหลายชั่วอายุคน แต่ทุกๆคนที่เป็นแขก จะถูกเรียกว่า ฮะซัน หรือไม่ก็ บังซัน พอมาเป็นพระยา ก็จะถูกเรียกให้เข้าปากกับตำแหน่งคือ พระยาราชวังสัน ซึ่งดัดแปลงมาจากชื่อแขกอีกที คิดเล่นๆ ถ้าได้ โจอี้ กาน่า มาแสดงเป็นออกญาราชวังสัน เราจะฮากว่านี้แน่นอน ออกพระศรีถมอรัตน์ "อ้าว...ท่านมิใช่องค์ดำดอกหรือ" ออกญาราชวังสัน " ดำพ่อมึงสิ "
Comments