top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนโทนี่ กระต๊าก

เจิ้นจื่อตันกับโจวเจ้าหลง ยอมรับฉากบู๊ใน Flash point ยากสุด

Flash Point (2007) ลุยบ้าเลือด เดิมทีคือโปรเจ็คภาคต่อของ SPL: Sha Po Lang(2005)

เป็นงานต่อยอดการบรรลุเป้าหมายมาจากการที่ เจิ้นจื่อตัน (ดอนนี่ เยน) โชว์ฟอร์มเหมาะสมที่สุดในหนัง Hero ของ จางอี้โหมว ที่ได้ไปก้องกังวานในฮอลลีวู้ด Mandarin Films มีความเห็นว่าเขาจะกลับมาผงาดในแผ่นดินประเทศฮ่องกงได้แน่นอนภายหลังที่ไปเป็นตัวประกอบและก็ทำคิวบู๊ในหนังฮอลลีวู้ดเกรดรองมานาน แม้กระนั้น SPL ยุ่งติดสติปัญญาด้านลิขสิทธิ์ของสตูดิโอ ABBA Movies หนังก็เลยสลับตัวละคร รวมทั้งเส้นเรื่องนิดหนึ่ง


แต่ว่ายังคงความเป็น SPL ไว้ ซึ่ง เจิ้นจื่อตัน กับผู้กำกับ วิลสัน ยิป ก็ทำออกมาเป็น Flash Point โดยขึ้นตรงกับสตูดิโอ Mandarin Films แต่ก่อนหนังวางตัว กัวฟู่เฉิง ในบทพระรอง แต่ว่ากัวฟู่เฉิง ไม่ยอมรับ หนังใหม่เต็มเรื่อง บทนี้ก็เลยเป็นของ กู่เทียนเล่อ สุดท้าย เจิ้นจื่อตัน กล่าวว่าหนังประเด็นนี้จะมีฉากต่อสู้ที่ดิบไม่มีอารยธรรมสมจริงสมจัง ผู้ชมจึงควรรู้สึกเสมือนถูกกระทืบไปกับนักแสดงด้วย เขารับหน้าที่ดีไซน์คิวบู๊


และก็ควบคุมกองถ่ายสองเองกับมือ แต่งบโดยประมาณจำกัดมากมายๆทำให้หนังหัวข้อนี้มิได้มีฉากใหญ่อะไร ด้วยงบประมาณเพียงแต่ 8 ล้านเหรียญประเทศฮ่องกงแค่นั้น เจิ้นจื่อตัน ก็เลยจะต้องอุตสาหะทำฉากบู๊ให้บ้าที่สุดเท่าที่จะทำเป็นเพื่อคนจำ โจวแรงวหลง เป็นดาราหนังที่พวกเขาเรียกใช้บริการ เพราะว่าผู้กำกับ วิลสัน ยิป ถูกใจฉากที่ เจิ้นจื่อตัน ดวลตัวต่อตัวกันกับ โจวแรงวหลง ในหนัง City of Darkness (1999) มากมายๆ


หนังใหม่เต็มเรื่อง

เจิ้นจื่อตัน ก็รู้สึกว่าเขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แถมเคยผ่านงานระดับฮอลลีวู้ดอย่าง The Matrix มาแล้ว ทุกสิ่งก็เลยพอดี เจิ้นจื่อตัน คิดแผนของบราวเพิ่ม ในฉากสู้ที่สนามกอล์ฟ เขาหวังจะให้เป็นฉากสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กลับถูกสตูดิโอไม่ยอมรับ พวกเขาก็เลยมาใส่เต็มตีนในฉากท้ายที่สุด ของเรื่องที่เป็นการดวลกัน หมัดต่อหมัดตีนต่อตีนของ เจิ้นจื่อตันกับโจวแรงวหลง


เพื่อคนจำ ทั้งสองครวญว่านี่เป็นฉากบู๊ที่โหดเหี้ยม หินยากเย็นแสนเข็ญที่สุดเท่าที่เคยแสดงบทบู๊มา บางจังหวะจำเป็นต้องซัดกันจริงๆเจ็บกันจริงๆ จนกระทั่งตลอดเวลาการถ่ายทำฉากนี้สิบวัน พวกเขาบอบช้ำไปตามๆกัน แม้กระนั้นมันก็คุ้ม เว็บหนัง HD เพราะว่าหนังปัดกวาดรายได้ไปทั้งมวล 46 ล้านเหรียญประเทศฮ่องกง จากทุนสร้างที่แย่ลงกว่าเดิมไป 10 ล้านเหรียญ รวมทั้งหนังยังได้รางวัลม้าทอง 2008 สาขาดีไซน์คิวบู๊ดีเยี่ยมที่สุด


แถมต่อยอดให้ เจิ้นจื่อตัน ได้กลับมาผงาดบนเกาะประเทศฮ่องกง จีน (พีคสุดใน Ip man ) และก็กลับไปฮอลลีวู้ดในฐานะสตาร์ดั ถัดมาผู้ผลิตเดิมนำเอา SPL มาสร้างภาคต่ออีกสองภาคในชื่อบริษัทใหม่ โดยไม่มีเงา เจิ้นจื่อตันหมายถึงSPL II: A Time for Consequences (2015) แล้วก็ Paradox (2017) ซึ่งได้ จา พนม ของบ้านพวกเราไปร่วมแสดง รวมทั้งมันทำรายได้สวย 90 ล้านเหรียญ กับ 80 ล้านเหรียญ เป็นลำดับ​

ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comentarios


โพสต์: Blog2_Post
bottom of page