อาเกรียง "อู๋ม่งต๊ะเมืองไทย" เสี้ยวความทรงจำ ที่ยังมีลมหายใจ

หลังชูชาติ อินทร ติดพันกับบทพากษ์ตัวพระเอก

การส่งต่อบทพากษ์ตัวสมทบ ที่เคยรับหน้าที่อยู่เป็นประจำ จึงต้องตกมาเป็นหน้าที่ของ เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง ซึ่งต่อมาเราเรียกนักพากษ์ท่านนี้ว่า “อาเกรียง” หลังจากนั้นไม่นาน ไม่มากก็น้อย ‘อาเกรียง’ คือบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่ทำให้แฟนหนังฮ่องกงชาวไทย รู้จักนักแสดงตัวสมทบที่ชื่อ “อู๋ม่งต๊ะ” สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของอู๋ม่งต๊ะ

คือการเรียกเสียงหัวเราะด้วยน้ำเสียง อันเป็นเอกลักษณ์จากอาเกรียง สีสันที่ถูกเจือลงไปในบทที่ลุงอู๋แสดง ช่วยทำให้เกิดความน่าหลงไหลในตัวนักแสดงขวัญใจคนไทยคนนี้มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นทุกบทบาทที่อู๋ม่งต๊ะแสดง ก็ไม่สามารถมีใครให้เสียงได้ดีเท่าอาเกรียงอีกเลย ดูหนังฟรี “อู๋ม่งต๊ะเมืองไทย” จึงถือเป็นฉายาที่ไม่ใช่จะได้มาด้วยความง่ายดาย แต่เป็นเพราะผลงานและสิ่งดีๆ ที่ตามมาจากการสร้างเสียงหัวเราะและมิติที่น่าสนใจให้แก่ตัวนักแสดงอู๋ม่งต๊ะของอาเกรียง ว่ากันว่าครั้งหนึ่งตัวอู๋ม่งต๊ะเอง ยังอดชื่นชมไม่ได้ที่ได้รู้ว่าบทบาทของนักพากษ์เสียงคนนึง จะทำให้ตัวเขาเป็นที่รักไคร่ชื่นชอบจากแฟนๆ หนังชาวไทยทั่วประเทศได้มากขนาดนี้ หนึ่งในผลงานภาพยนตร์ของอู๋ม่งต๊ะที่ตัวผู้เขียนและเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ดูบ่อยที่สุด คือเรื่อง ‘นักเตะ เสี้ยวลิ้มยี่’ หรือ ‘Shaolin Soccer’ ซึ่งถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าตัวภาพยนตร์มีความสนุกสนานและมอบความบันเทิงให้แก่วัยรุ่นในยุคนั้นมาก

ส่วนหนึ่งก็เพราะทีมพากษ์พันธมิตร และเสียงอู๋ม่งต๊ะของอาเกรียง

ไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะสนุกสนาน แต่อาเกรียงยังสวมบทบาทเป็นตัวละครของอู๋ม่งต๊ะด้วยหัวใจ ทั้งการเข้าถึงอารมณ์ ทั้งการอ่านภาษากาย ที่ถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง ของนักแสดงอู๋ม่งต๊ะ อย่างหมดจด ทำให้อู๋ม่งต๊ะ ในคราบเสียงของอาเกรียง กลายเป็นเนื้อเดียวกัน จนเรารู้สึกว่าเสียงนั้น คือเสียงของอู๋ม่งต๊ะตัวจริง

กว่า 40 ปีที่อาเกรียงสั่งสมประสบการณ์การทำงานมา ตั้งแต่การเข้าไปศึกษาการทำงานพากษ์เสียงด้วยตนเอง จนออกมาทำเอง ล้วนแต่ผ่านเรื่องราวต่อสู้ดิ้นรนมาทั้งสิ้น ในขณะที่ชีวิตของอู๋ม่งต๊ะฉายภาพซ้อนว่าชีวิตของนักแสดงที่มีรุ่งโรจน์มีโด่งดังในวันหนึ่ง ถึงวันนึงก็ต้องมีดับแสงลงได้เช่นกัน ชีวิตล้มลุกคลกคลานของอู๋ม่งต๊ะเคยเกิดขึ้นในช่วงปลายยุค 80s หลังใช้ชีวิตหลงไปกับการพนันจนทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว ผู้คนในวงการต่างหันหลังให้เขา รวมถึง หนังออนไลน์ เพื่อนร่วมสถาบัน TVB อย่างโจวเหวินฟะ กว่าจะกลับมาอยู่บนเส้นทางนักแสดงที่มีชื่อเสียงได้อีก ก็ต้องรอจนกระทั่งภาพยนตร์ A Moment of Romance (1990) ซึ่งบทบาทจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายจาก Hong kong Film Awards ในปีนั้น และถือเป็นบทบาทการแสดงสำคัญที่อาเกรียงได้มีโอกาสพากษ์เสียงให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย (ฉบับบูรณะ 4k ฉายไทย) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 15 นาฬิกา อู่ม่งต๊ะจากไปอย่างสงบในวัย 70 ปี ด้วยภาวะแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งตับ เขาจากไปโดยทิ้งผลงานมากมายที่เป็นที่จดจำของนักดูหนังมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี หนึ่งในดอกผลของมนุษย์นักสู้ที่สร้างกำลังใจในการใช้ชีวิต

และการทำงานแก่แฟนๆ ที่ชื่อว่า "อู๋ เมิ่งต๋า" หรือ "อู๋ม่งต๊ะ" และชายที่ทำให้ ‘อาเกรียง’ เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง คือหนึ่งในเสี้ยวความทรงจำผู้ทำให้ “อู๋ม่งต๊ะ" มีชีวิตโลดแล่นสร้างความสุขแก่คนไทยมาตลอดหลายปี"