เมื่อสเปนอยากทำหนังบู๊มาเชี่ยลอาร์ต แบบฮอลลีวู้ดบ้าง
เราจึงได้หนังบู๊ยุค 90 ที่มีพล็อตคล้าย Gladiator ในเวอร์ชั่นมาเฟียสเปน เพียงแต่คิวบู๊ ความรุนแรงต่างๆยังห่างชั้นหนังพวก John Wick หรือ Jason Bourne อะไรพวกนี้อยู่หลายขุม แม้แต่หนังบู๊เกรด B อย่างพวกหนังของพระเอก สก็อต แอดกินส์ ก็ยังดูเหมือนจะรุนแรงและสวยงามกว่า จะมีดีก็ตรงความเหี้ยม ยิงหน้ายิงหัวกันแบบไม่ต้องให้ตั้งตัวกัน
ยิงข้างหลัง ยิงทีเผลอมีหมด เป็นการบู๊สายมาเฟียสุดชั่วของจริง ไม่ได้มาหล่อๆแบบพระเอกจ๋า แต่....... ไอ้บ้าเอ๊ย!! 40 นาทีท้ายแม่งกลายเป็นหนังตลกแบบไม่ได้ตั้งใจตลกไปซะอย่างนั้น ทั้งที่มันโอเคมาตลอด ดูหนังออนไลน์ จะติดขัดก็ตรงคิวบู๊ที่เหมือนหนัง แวนแดม หนังซีกัล นั่นแหละ(แต่ใช่ว่าจะไม่ชอบนะ ยังได้อยู่) ขอจัดให้อยู่ในโซนหนัง ฌองคลอด แวนแดม
หรือ สตอลโลน อะไรแนวๆนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามึงมาสร้างในยุคนี้ มันเลยตกขอบไปอยู่ในโซนหนังเกรด B แล้วคือช่วงท้ายของหนังมันเป็น 40 นาทีท้ายที่เอาจริงๆแม่งซีเรียสนะ ความแค้นรุมสุมทรวงมาก แต่กูนั่งฮาลั่นไปจนจบ เราได้ ฌองคลอด แวนแดม คนใหม่ที่หน้าเหมือนลิ่วล้อในหนังบู๊ยุค 90 และได้หนังบู๊ที่ช่วงท้ายเหมือนมึงหมดแรง
ทุกอย่างดู Hole ไปหมด ทุกๆคนที่ฉลาดก็เหมือนจะทำตัวโง่กันไปหมดไม่เว้นแม้แต่พระเอก ราวกับใช้คนละทีมจากหนังช่วงแรกๆทำ ตลกที่ Netflix ให้ทุนสร้างหนังอะไรแบบนี้ มันเหมือนใส่เบ็ดล่อผู้สร้างผู้กำกับหนังหลายๆประเทศให้เข้ามาผลิตคอนเท้นต์ โดยมีข้อแม้ว่า มึงจะทำหนังบู๊โง่ๆก็ไม่ว่า แต่ขอให้หน้าหนังมันดูบู๊ๆเท่ๆไว้ก่อน
ซึ่งเอาจริงๆคนไทยเก่งๆก็มีเยอะ ทำได้ดีกว่านี้ด้วย ดูแล้วคันไม้คันมืออยากปั้นโปรเจ็คไปเสนอ Netflix มาก เพราะบทเชยๆแบบนี้มึงยังอนุมัติให้สร้างเล้ย... แต่น่าสนใจตรงมันเอา ซีรี่ย์ Netflix Gladiator มาทำเป็นหนังมาเฟียยุคใหม่นี่แหละ (ไม่ใหม่เท่าไหร่ มือถือแม่งยังพากันใช้รุ่นจอไม่สีอยู่เลย) หนังใช้การยำใหญ่ใส่พล็อตเรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย
มีแอบๆแวะไป The Equalizer ด้วย แต่อันนี้ไม่ใช่นักฆ่าโฮมโปร แต่เป็นนักฆ่าอู่ซ่อมรถ หรือแม้กระทั่ง The Karate Kid มึงยังเอามา ซึ่งพอกูจับทางได้ มันก็ไม่ถือว่าสดแล้ว มันเลยกลายเป็นหนังที่เหมาะกับการกวาดบ้านถูเรือนไปด้วย ดูไปด้วย แบบที่ไม่ต้องจ้องจอตลอดเวลาก็ได้
Comentarios