ผู้กำกับ พอล เวอร์โฮเว่น ในวัย 82 ปี เป็นคนทำหนังประเภทซื่อสัตย์กับด้านมืดในใจของตัวเองสุดๆ
ด้านมืดที่ว่าคือความสัปดน หรือเรียกง่ายๆว่าความจัญไรนั่นเอง เขาเคยนำเสนอแนวคิดให้ ลูอิส นางเอกของหนัง RoboCop ปี 1987 ของเขา พยายามจะมีเซ็กซ์กับโรโบค็อป แม้เขาจะกลายเป็นคนครึ่งหุ่นไปแล้ว แต่ต้องถูกเตะตัดขาจากผู้สร้าง เพราะเป็นแนวคิดที่เล่นแผลงๆเกินไป ความไม่ลงรอยหลายๆอย่างกับผู้สร้างทำให้เขาไม่กลับมาทำภาคต่ออีก
ใน Total Recall (1990) เขาได้รับอนุญาตให้ใส่เอเลี่ยนที่มีนมสามเต้าเข้ามาในหนัง เขาคิดว่านอกจักรวาลนั้น กายภาพของสิ่งมีชีวิตไม่น่าจะเหมือนเราสักเท่าไหร่ แต่ฉากเซ็กส์ดุๆกับเอเลี่ยนสามเต้าถูกสั่งตัดเหี้ยน ก็ยังดีที่นมสามเต้ายังได้ออกสู่สายตายชาวโลก หลังจากเก็บงำความเงี่ยนมาจากหนังแอ็คชั่นสองเรื่องข้างต้น พอล เวอร์โฮเว่น ดูเหมือนจะทนไม่ไหวและอยากปลดปล่อยแนวคิดเงี่ยนๆ เขาจึงเริ่มทำโปรเจ็คอีโรติกบันลือโลกอย่าง ดูหนังออนไลน์ Basic Instinct (1992) แน่นอนว่าได้ผล เขาเผื่อแผ่ความเงี่ยนให้ชาวโลกจนหนังทุนแค่ 49 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำรายได้ไป 359 ล้านเหรียญ ซึ่งในยุคนั้นถือว่ามหาศาลมากถ้าเทียบกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นๆ ความเงี่ยนยังไม่หมดแค่นั้น เขากลับมาอีกในปี 1995 กับหนัง Showgirls คราวนี้มันไม่ใช่แค่หนังวับๆแวมๆแบบเรื่องก่อน เพราะหนังได้เรต NC-17 ซึ่งเป็นเรตสูงสุดของการจัดเรตในตอนนั้น คือพูดง่ายๆว่าหนังมาเพื่อบำบัดความใคร่ส่วนตัวของ พอล เวอร์โฮเว่น ล้วนๆ แต่ทว่าหนังถูกนักวิจารณ์ฟาดจนไม่เหลือมาดผู้กำกับที่ทำหนังอีโรติกมีคลาสอย่าง Basic Instinct เลย หนังทำรายได้ไปเพียง 37 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญ เรื่องตลกคือ พอมันมาในรูปแบบ ม้วนวีดิโอ VHS มันกลับทำมูลค่ายอดการขายได้กว่า 100 ล้านเหรียญ ว่ากันว่าที่คนไม่ไปดูเพราะขนาดหนังเรต R อย่าง Basic Instinct คนแม่งยังพากันทรมานไข่เสียวปลายแปลบๆในโรง นี่คือหนังได้เรต NC-17 หนังโป๊ดีๆนี่เอง ใครมันจะเข้าไปทรมานไข่ตัวเองกัน สู้รอมันออกมาเป็น Home video แล้วซื้อกลับมาตำที่บ้านสบายใจกว่า จนทุกวันนี้แม้หนังจะผ่านไป 26 ปีแล้ว
แต่ยังขายดิบขายดีในรูปแบบ DVD และ Blu-ray ที่ถูกตัดต่อใหม่เป็นแค่เรต R ปี 1997 พอล เวอร์โฮเว่น กลับมากับหนังไซไฟสุดมันส์อย่าง Starship Troopers
หนังที่สร้างจากนวนิยายคลาสสิค แต่เวรกรรมที่ พอล เวอร์โฮเว่น ไม่สนใจอ่านนิยายต้นฉบับเพราะมันยาวยืด เขาทำหนังแนวทางของเขาโดยใช้นักแสดงทรงสบึมส์อย่าง เดนนิส ริชาร์ด มาเป็นจุดขายควบคู่ไปกับเทคนิคพิเศษมันส์ๆ เขาไม่ลืมที่จะใส่ฉากหื่นๆเข้ามาในหนัง หากยังจำกันได้ ฉากอาบน้ำรวมชาย-หญิง ยังคงติดตาตรึงใจใครหลายคน
ไม่มีใครคิดว่าหนังจะเจ๊งบ๊ง จนกระทั่งปิดโปรแกรมแล้วหนังทำรายได้ไปเพียง 120 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 105 ล้านเหรียญ และเข้าอีหรอบเดิมคือ มันมาขายดีตอนลงม้วนลงแผ่น และของเล่นกับเกมต่างๆก็ยังขายดีจนทุกวันนี้ ซีรี่ย์ Netflix พอล เวอร์โฮเว่น ยังได้รับโอกาสทำหนังเสมอๆ และโปรเจ็ค Hollow Man ปี 2000 คือฟางเส้นสุดท้ายของเขากับหนังระบบนายทุนใหญ่ เพราะเขาหวังว่าการทำหนังมนุษย์ล่องหนแบบนี้ มันมีแนวคิดพิเรนทร์ๆให้เขาเล่นได้เยอะมาก แน่นอนว่าเป็นเรื่องอย่างว่าซะส่วนใหญ่ แต่กลายเป็นว่าแนวทางของเขาถูกตีตกไป และถูกบังคับให้ทำหนังในโทนระทึกขวัญไล่ฆ่าแกงกันแทน ฉากสัปดนและฉากหวิวๆของเขาถูกตัดออกจนเหี้ยน มีเพียงฉากแอบย่องไปดูดนมเพื่อนร่วมงานนั่นแหละที่รอดพ้นคมกรรไกร แต่ข้อดีของการที่ไม่ได้สร้างตามแนวทางจัญไรๆของเขาคือ มันทำให้หนังประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะถือเป็นหนังป๊อปคอร์นดูสนุกๆ แต่นั่นก็ทำให้ พอล เวอร์โฮเว่น โบกมือลาหนังฟอร์มใหญ่ แล้วไปเน้นทำหนังเล็กๆที่ใส่แนวคิดหวิวๆดาร์คๆลงไปได้ ผลงานที่ว่าคือ Black book (2006) หนังนาซีหักหลังกันไปมาที่มีฉากหวิวๆเต็มไปหมด หนังได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็น "การผสมผสานกันอย่างรุนแรงทางเพศ และ ความสัมพันธ์ทางศีลธรรม เป็นเรื่องประโลมโลกที่สนุกสนานอย่างไร้ยางอาย" Elle (2016) งานอีโรติกบาปๆขวัญใจนักวิจารณ์ที่พูดถึงผู้หญิงไฮโซที่ถูกข่มขืนในบ้านตัวเอง แต่คนดูกลับไม่ได้รู้สึกเห็นใจเธอเลย เป็นหนังที่ พอล เวอร์โฮเว่น โชว์ความเก๋าในการเล่นกับความผิดถูกได้สนุกมือ แน่นอนว่ามีฉากหื่นๆรุนแรงอยู่เพียบ ปี 2021 พอล เวอร์โฮเว่น
ในวัย 82 กำลังจะกลับมาพร้อมความบาปหนาครั้งใหม่ Benedetta หนังสร้างจากเรื่องจริงของแม่ชีที่มีสัมพันธ์สวาทกับแม่ชีด้วยกัน งานอีโรติกท้าทายศาสนาที่เอาเงี่ยนกันตั้งแต่โปสเตอร์กันเลย เพราะโปสเตอร์เป็นผู้หญิงในชุดแม่ชี แต่เผยให้เห็นหัวนมเสี้ยวหนึ่ง โหดสัสตามสไตล์ปู่พอลจริงๆ
Comments