ใครจะไปคิดว่า ด.ช.วรวิทย์ ยีรัมย์ เด็กเลี้ยงช้างจากสุรินทร์
ที่เคยเสิร์ฟน้ำ ยกไฟ และเป็นสตั๊นท์ตัวประกอบในกองถ่ายหนังภูธร ในเวลาต่อมาจะก้าวสู่การเป็นดารานักบู๊ระดับโลกได้ แม้แต่ตัวเขาเองตอนที่ไปเป็นสตั๊นท์แทนพระเอกในหนังฝรั่งตอนที่เขาอยู่ ม.5 ก็ไม่น่าจะทันได้คิดว่าในอนาคตเขาจะได้เอามวยไทยโบราณไปโชว์ในเวทีโลก ครั้งแรกที่ได้รู้จักมนุษย์มหัศจรรย์อย่าง "จา พนม ยีรัมย์"
เชื่อว่าทุกคนจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "องค์บาก" ฝรั่งยังตาถลนว่ามนุษย์เราสามารถควบคุมร่างกายให้พริ้วไหวและกระโดดสูง แถมม้วนตัวตีลังกาหลายเกลียวบนอากาศได้ขนาดนั้นได้ยังไง ตอนหนังองค์บากถูกผู้กำกับ ลุค เบซง ซื้อไปฉายที่ฝรั่งเศสและอเมริกาหรือประเทศแถบๆนั้น บอกเลยว่าน่าทึ่งมาก ตอกย้ำความแมสด้วย หนังใหม่เต็มเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" นี่กูถึงขนาดอยากท้า เฉินหลง , เจ็ต ลี อะไรพวกนี้เลยว่า "บวกกับพี่จากูซักเรื่องมั้ยสัส" เพราะรู้สึกว่าฮ่องกงมี แจ็คกี้ ชาน เมืองจีนมี เจ็ต ลี บ้านกูก็มี จ.จาน เหมือนกันคือ จา พนม โว้ย... ด้วยคอนเซ็ปต์ เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สลิงใดๆ ย้อนดูคลิป จา พนม ไปต่อยมวยและเตะลูกบาสโชว์ช่วงพักครึ่งบาสเก็ตบอล NBA แอบสังเกตเห็นปฏิกริยาฝรั่งประมาณว่า "มึงมาทำไมวะ" แต่เมื่อโชว์พี่จาจบลง เสียงปรบมือก็ดังสนั่น อารมณ์ประมาณในหนังองค์บากนั่นแหละคือจะโดนเหยียดหน่อยๆตอนไม่ได้ออกหมัด พอได้กระทืบใครซักคนให้เห็นเท่านั้นแหละ ปรบมือกันจบแสบไปหมด เป็นคลิปที่ย้อนดูบ่อยมาก พร้อม ๆ หัวใจที่พองโต คืออีกนิดพี่จาแกก็จะเหาะให้ฝรั่งดูแล้ว หลังจากนั้นก็ไปค้นไปตามอ่านเรื่องราวของคนๆนี้ ถึงได้รู้ว่า จา พนม อยู่ในวงการหนังมานานมาก ตั้งแต่เป็นตัวประกอบตีลังกาทั้งเรื่องให้หนัง อ.พันนา คือมีเรื่องหนึ่งคาแร็คเตอร์แกนี่กูเวียนหัวแทนมาก ตัวละครตัวนี้จะไม่ค่อยเดิน แต่จะใช้ตีลังกาเอาแทนการเดิน ต่อมาแกก็วนเวียนในวงการสตั๊นท์ แสดงแทน เจมส์ เรืองศักดิ์ ในละคร อินทรีแดง ,ในหนัง แก๊งกระแทกก๊วนฯ ,CC-J แสบฟ้าแลบ , รวมไปถึงแสดงแทน โรบิน ชู ผู้รับบทเป็น ลูคัง ในหนัง Mortal Kombat 2 ที่มาถ่ายในเมืองไทย จนกระทั่งมาเปิดตัวในฐานะพระเอกแห่งองค์บาก ที่ทำกับ อ.พันนา และ ปรัชญา ปิ่นแก้ว นี่แหละ แต่ที่แน่ ๆ จา พนม หรือ Tony Jaa ไม่เคยหยุดฝึกซ้อม ทะเยอทะยานจนเข้าตาฮอลลีวู้ด ซึ่งก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะเหมือนเป็นเป้าหมายของ จา พนม ตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่ต้องการเดินเส้นทางสายแอ็คชั่นสตาร์ระดับอินเตอร์ แต่ไม่นึกว่าผู้สร้างที่เรียกใช้งานเขาจะเป็นระดับทีมของ วิน ดีเซล แห่งหนัง Fast & Furious ทั้งที่อันที่จริงเขาน่าจะไต่ระดับในเอเชียก่อน คือซัดกับเฉินหลงก่อนซักเรื่องก็ยังดี แว่วมาว่าเกือบๆจะได้เจอกันในหนัง Rush hour ภาค 3 แล้ว เพราะเฉินหลงเองก็ชอบพี่จามาก เหมือนอยากโดนไอ้ทิ้ง ประดู่พริ้ว ซัดหน้าซักครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่นด้วยกัน เพราะว่ากันว่าศักดิ์ศรีของ จา พนม ไม่ควรจะไปเป็นแค่กระสอบทรายให้พระเอกเตะเล่น
แต่ต้องยอมรับกันตามตรงว่า จา พนม ในหนัง Fast คือกระสอบทรายระดับอินเตอร์ดีๆ นี่แหละ
กูโกรธมากที่หนังไม่ได้ใช้งาน โทนี่ จา ของกูมากพอ ทั้งที่ครบเครื่องเรื่องตีต่อยขนาดนี้ แต่โอกาสมันเหมือนเปิดทางรออยู่แล้วในระดับเอเชีย เพราะไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นว่าเมื่อ จา พนม กลับมามีผลงานระแวกเอเชีย ผู้กำกับฝั่งฮ่องกงใช้งาน จา พนม ได้ดีมากๆ บทเด่น และไม่เป็นกระสอบทราย ออกหมัดมวยได้ตามที่คนอยากจะเห็น
ผลงาน SPL ทีมล่าเฉียดนรก ที่ได้ปะทะกับ อู๋จิง , จางจิน และ กู่เทียนเล่อ ถือว่าใกล้เคียงกับ จา พนม ในหนังไทยที่สุดแล้ว มีคนบอกเสียดายที่พี่จาไม่ได้เจอกับ ดอนนี่ เยน พระเอก SPL ภาคแรก ไม่งั้นนะมันส์กว่านี้ เหมือนเสียงบ่นเรื่องที่ไม่ได้เจอ ดอนนี่ เยน จะไปเข้าหู เว็บหนัง HD วิน ดีเซล พี่จาก็เลยได้เจอกับ ดอนนี่ เยน จริง ๆในหนัง xXx: Return of Xander Cage ซึ่งคราวนี้เหมือน วิน ดีเซล แกจะสำนึกหน่อย ๆ ว่า จา พนม ฟรอม ไทยแลนด์ ไม่ควรเป็นแค่กระสอบทรายในหนังของเฮียโล้น เลยมอบบทหนึ่งในสมาชิกทีม xXx เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันซะเลย ซึ่งก็ถือว่าอัพเลเวลจาก Fast มาได้อีกหน่อย คือบทบาทจะมีทั้งบู๊ และมีสีสันมากขึ้น จนกระทั่งมีชื่อพี่จาในโปรเจ็ค Monster Hunter ที่ต้องประกบคู่กับนางเอกขาบู๊ผีชีวะอย่าง มิลล่า โจโววิช ท่ามกลางกระแสคอมเม้นต์ว่าเสียดายเพลงมวยของพี่จาไม่น่ามาเล่นหนังที่ใช้เอฟเฟคอลังการท่วมจอขนาดนี้เลย แต่มีคนบางกลุ่มในไทยที่ได้ดูหนังรอบสื่อไปแล้ว ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " นี่คือบทบาทที่โดดเด่นที่สุดในโปรดักชั่นฮอลลีวู้ดของ จา พนม " คุณจะได้เพลิดเพลินกับเอฟเฟคของเหล่าสัตว์ประหลาดยักษ์ ไปพร้อมๆกับหมัดมวยและอารมณ์ขันของพี่จาแบบเต็มๆ ชนิดที่ว่าตีขนาบข้างกันไปกับนางเอกคนดังได้อย่างไม่รู้สึกว่าด้อยกว่าหรือเอาไปเป็นกระสอบทรายอย่างที่ผ่าน ๆ มา ลองนึกจินตนาการว่าใน Monster Hunter นี้ Tony Jaa ของเราวาดลวดลายคิวบู๊ที่ออกแบบโดยทีมสตั๊นท์เดือดๆจากหนัง Mad Max: Fury Road และ Avengers: Age of Ultron และถูกกำกับโดย พอล ดับเบิลยู.เอส.แอนเดอร์สัน แห่ง Resident Evil เอาแค่นี้ก็แทบจะจินตนาการไม่ได้แล้วว่าจะออกมาเดือดขนาดไหน นี่ยังไม่พูดถึงว่าได้เล่นประกบกับ มิลล่า โจโววิช เจ้าแม่สายแอ็คชั่นล่าระห่ำเจ็บจริงแบบไม่ห่วงสวยอีกนะ การเดินทางของผู้ชายที่ชื่อ จา พนม สู่ระดับอินเตอร์ จากสตั๊นท์แมน สู่การรับบทนักแสดงนำเรื่องแรกใน Monster Hunter นั้น บอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันมาจากความตั้งใจและความมานะบากบั่นเชื่อมั่นในสิ่งที่พี่จาแกรักล้วนๆ…..
ขอบอกได้คำเดียวว่าต้องยอมใจในความมุ่งมั่นของพี่จาจริงๆ ไม่ได้พูดเกินจริง อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสเห็นความตั้งใจของผู้ชายคนนี้ ไปดูเลยครับหนังมันส์แบบไม่หยุดเลยทั้งเรื่อง Monster Hunter ฉายแล้ววันนี้ ไปดูให้รู้ว่าพี่จาของเราโคตรเจ๋งแค่ไหน ไปดู!!!
Comments